เมื่อฟุตบอล ไม่มี กฎล้ำหน้า

จะเป็นอย่างไร หากศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021 ไม่มี กฎล้ำหน้า คุณลองนึกภาพถึงแผนการเล่นของ เป๊ป , คล็อปป์ , ซีดาน ดูกันเล่นๆ จากสไตล์ เฮฟวี่ เมทัล จะเปลี่ยนเป็นบอลยาวย้อนยุค หรือไม่ ระหว่างที่คุณกำลังนึกภาพเราไปทำความรู้จัก ผู้คิดค้น กฎกติกาล้ำหน้า และ วิวัฒนาการ ของกติกาข้อนี้ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

หากฟุตบอลไม่มี กฎล้ำหน้า ระบบวางตำแหน่งเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้น “บุรุษผู้สร้างอาร์เซน่อล” คือผู้ริเริ่ม ระบบการวางตำแหน่งผู้เล่นกองหลัง เพื่อลองรับ กฎล้ำ หน้า จนกลายเป็นแผนการเล่นที่ได้รับความนิยม มาจนถึงทุกวันนี้ แทงบอล

เฮอร์เบิร์ต แชปแมน (Herbert chapman) ชายผู้เป็นตำนานกุนซือของ ไอ้ปืนใหญ่ เขาคือ เป็นผู้คิดค้นแผนการเล่น ที่ทั่วโลกรู้จัก และ ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน นี้

แชปแมน เป็นต้นตำรับแผนการเล่นในการวางตำแหน่ง “สต๊อปเปอร์ (Center Back) หรือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (Center Half)” เพื่อจัดการระบบแผงหลังใหม่ ลองรับเพิ่มกติกาการเช็คล้ำหน้าเข้ามานั่นเอง

“กฎล้ำหน้า”

กติกาล้ำหน้า (รากศัพท์ อังกฤษ : Offside) ตามกติกาของฟุตบอล หมายถึง ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า (ยืนตำแหน่งสูงกว่าผู้เล่นฝ่ายรับ) ใช้ร่างกายสัมผัสลูกฟุตบอล หรือ ขยับ่รางกายหลบหลีกลูกยิง

จนทำให้มีส่วนร่วมในจังหวะล้ำหน้านั้น โดย ผู้ตัดสิน จะมองไปยังที่เจตนาว่า เขามีส่วนร่วมกับการเล่นอย่างชัดเจนหรือไม่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ ตำแหน่งของผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย

ร่วมไปถึง การอาศัยความได้เปรียบจากการ ยืนอยู่ในตำแหน่งอยู่ในพื้นที่ล้ำหน้า ขณะนั้น แต่ไม่นับเป็นการล้ำหน้า เช่นกรณีเล่นลูกตั้งเตะจากประตู หรือ ลูกทุ่ม

สำหรับการบทลงโทษของการกระทำผิดกฎ ล้ำหน้า จะลงโทษโดย ให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้เตะลูกฟรีคิกจากตำแหน่งล้ำหน้านั้นๆ

วิวัฒนาการของ “กฎล้ำหน้า”

กฎ ล้ำหน้าเกิดขึ้นในโลกของแห่งวงการฟุตบอลครั้งแรก เมื่อปี 1863 หรือ ยุคแรกเริ่มของกีฬาฟุตบอล ทว่ากฎดังกล่าว ในยุคตั้งไข่นั้นแตกต่างจากกฎ ล้ำหน้าในปัจจุบันมาก เพราะสมัยนั้นมีกฎกติกาง่ายๆ ที่ระบุว่า

ผู้เล่นที่ยืนตำแหน่งอยู่สูงเหนือกว่า “ลูกฟุตบอล” นับว่าผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าทั้งหมดย้อนกลับไป ราว 200 ก่อน คุณลองนึกภาพการแข่งขัน ฟุตบอล ที่เรียงแถวหน้ากระดาน เหมือนกับวิธีการเล่นรักบี้ในปัจจุบันนั่นเอง

กฎล้ำหน้าล่าสุดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

เมื่อวงการลูกหนังเดินทางเข้าสู่ยุค 1990 การแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ประเทศ อิตาลี ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยครั้งนี้ กติกาล้ำหน้าระบุว่า

• ผู้เล่นฝ่ายรุกที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่ไม่มีส่วนในการเล่นจังหวะนั้นถือว่าไม่ล้ำ
• ส่วนการที่ผู้เล่นฝ่ายรุกยืนตำแหน่งเสมอผู้เล่นฝ่ายรับตัวก่อนตัวสุดท้ายถือว่าไม่ล้ำ

ซึ่งกฎ ล้ำหน้าล่าสุดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ตามกติกาผู้เล่นจะถูกจับล้ำหน้าได้นั้น ต้องมี อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ล้ำผู้เล่นคนสุดท้าย เว้นผู้รักษาประตู

ก้าวสู่ทคโนโลยีช่วยตัดสิน VAR

ในช่วงฤดูกาล 2019/2020 ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก นำเทคโนโลยีช่วยตัดสิน VAR ที่ลากเส้นตรงในแนวดิ่ง มาใช้ช่วยตัดสินจับล้ำหน้า

จนเกิดกระแสวิจารณ์ตามมากมาย หลักเกิดกรณีถูกริบประตูคืน จากคำตัดสินล้ำหน้าจาก รักแร้ ของ ฟีร์มิโน ที่ดันเหลื่อมกว่าเข่าของ ไทรอน มิงส์ เกมระหว่าง แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านพ่าย ลิเวอร์พูล 2-1

รวมไปถึง เกมวูล์ฟส์ ถูกริบประตูคืน ตอนพบกับ เลสเตอร์ เพราะถูกจับล้ำหน้าในระดับมิลลิเมตร.. และ ปัญหาเหล่านี้ ทำให้แฟนบอลขาดอรรถรสในการชมฟุตบอลอย่างมาก

เปลี่ยนโฉมกฎล้ำหน้า หนึ่งข้อเสนอจาก อาร์แซน เวนเกอร์

จากปัญหาการตัดสินด้วยเทคโนโลยี VAR ดังกล่าว ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลทั่วโลก ของ ฟีฟ่า

เวนเกอร์ นิยามกฎ ล้ำหน้ารูปแบบใหม่ของตนเอง ด้วยการกำหนดให้อวัยวะส่วนใดก็ตามของผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่ไม่ได้ใช้อวัยวะส่วนนั้นทำประตู จะไม่นับเป็นการล้ำหน้า

ซึ่งไอเดียดังกล่าวถูกเตรียมหัวข้อเข้าที่ประชุมสามัญประจำปี เพื่อให้ทาง คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ หรือ IFAB ศึกษาถึงความเป็นไปได้ก่อน

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเริ่มรับฟังขอเสนอของ เวนเกอร์ ถึงการเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าว ซึ่งแฟนบอลคาดหวังว่า การพิจราณาในครั้งนี้

ขณะที่ สื่อชั่นนำเกาะอังฤษ อย่าง เดอะซัน ทำโพลแบบสำรวจแฟนบอลในอังกฤษ เกี่ยวกับการเปลี่ยนกฎล้ำหน้าตามที่ เวนเกอร์ เสนอมา ซึ่งผลโพลสำรวจออกมาว่า มีจำนวน 74 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วย และอีก 15 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่เห็นด้วย ขณะที่ 11 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือยังคงไม่แน่ใจใรการเปลี่ยนแปลงนี้

(IFAB) ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของกติกาฟุตบอล รวมถึงตัดสินของ VAR ในฤดูกาลหน้าคือ 2020/21

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ ในฤดูกาลหน้าจะทำให้ ผู้ตัดสินในสนามจะมีอำนาจมากขึ้นในการตัดสิน โดยผู้ตัดสินจะรับหน้าหลักในสนามแข่งขันตามเดิม แต่เพิ่มเติม คือ การมาดูจอมอนิเตอร์ข้างสนาม แบบ (On-field review) ในจังหวะปัญหา และ ความไม่แน่ใจแทนที่จะปล่อยให้ VAR ถูกเรียกใช้งาน

อย่างไรก็ตามทาง IFAB ไม่อนุญาตให้แฟนบอลฟังบทสนทนากัน ระหว่างผู้ตัดสินในเกม

หากฟุตบอลยกเลิกกฎ “ล้้ำหน้า”

ยกเลิกกฎ “ล้้ำหน้า” แนวคิดสุดบันเจิดด!! ของ มาร์โก แวน บาสเท่น ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของฟีฟ่า ได้ออกมาเปิดเผยว่า กำลังมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงกฎต่างๆ ในการเล่นฟุตบอล รวมทั้งการยกเลิกกฎ “ล้้ำหน้า” ด้วย

หลายท่าน ยังคงนึกภาพ ที่เรากล่าวไปในช่วงต้น ขึ้นมาทันที่ หาก ฟุตบอลไม่กฎ “ล้้ำหน้า” นั้นหมายความว่า รูปแบบการเล่นฟุตบอล โดยเฉพาะเกมรุกคงเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

อย่างที่ผมชงไว้ในหัวข้อแรก จากสไตล์ เฮฟวี่ เมทัล จะเปลี่ยนเป็นบอลยาวย้อนยุค หรือไม่คิดกันเล่นๆ หลายๆ ทีมคงต้องมองหากองหน้ารูปร่างสูงใหญ่ เก็บบอลได้ ยิงประตูดี ไม่ต้องมีความเร็วมาก ทักษะเลี้ยงบอลได้ เพียงแค่ “ปักหลัก” รอยิงอย่างเดียวก็พอ

บทสรุปสุดท้าย มันคงน่าเบื่อไม่น้อย สำหรับการดูบอล เพราะหลายทีมจะกลับเปลี่ยนแผนเกมรุก แบบ ติกิ-ตาก้า (Tiki-taka) , เพรสซิ่ง (Pressing) หรือ ระบบอื่นๆ มาเล่นโยนยาว ส่งให้กองหน้าตัวเป้าที่ยืนอยู่ตรงประตูฝั่งตรงข้ามคอยยิงเท่านั้น

เกร็ดน่ารู้

แชปแมน คือผู้ริเริ่ม

• การวางตำแหน่ง “สต๊อปเปอร์ (Center Back) หรือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (Center Half)”
• ความล้ำสมัยด้วยการทดลองเล่นฟุตบอล ด้วยลูกบอลสีขาว
• การติดปุ่มใต้รองเท้าสตั๊ด
• การเคลือบผิวของรองเท้าสตั๊ดให้สามารถใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ
• การใช้แสงไฟเพิ่มความสว่างในสนาม ระหว่างการแข่งขัน

ไม่เพียงเท่านั้น แชปแมน ยังทำการแจ้งคณะกรรมการขนส่งมวลชน ของอังกฤษ ให้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟใต้ดินสาย กิลสพาย ที่อยู่ใกล้สนามฟุตบอลไฮบิวรี่ ให้เป็นชื่อสถานนี “อาร์เซน่อล” ได้สำเร็จ

บอล หวย มวย บาคาร่า สล็อต joker ครบจบที่นี่ UFASTAR356